ไทยพาณิชย์ หนุนธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศคึกคัก รับการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เปิดตัวบริการ SCB Cross Border Payment Tracking ให้ผู้ประกอบการติดตามสถานะเงินโอนต่างประเทศได้ด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์ www.scb.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง สะดวก รวดเร็ว ตรวจสอบง่าย ได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถตรวจสอบได้เฉพาะกรณีธนาคารผู้รับเงินเป็นสมาชิก SWIFT gpi ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 4,4การค้าระหว่างประเทศการค้าระหว่างประเทศ ราย ใน 211 ประเทศทั่วโลก
นายธนวัฒน์ กิตติสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน GTS and Ecosystem ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในยุคที่การทำธุรกิจระหว่างประเทศถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเป็นสำคัญ อีกทั้งการเปิดประเทศเต็มรูปแบบส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระหว่างประเทศกลับเข้าสู่โหมดการเติบโตอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนำเข้า-ส่งออกจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทำให้เกิดธุรกรรมการชำระเงินและการโอนเงินระหว่างประเทศที่เติบโตตามไปด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์จึงเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจเดินหน้าทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง โปร่งใส และปลอดภัย ด้วย SCB Cross Border Payment Tracking บริการติดตามสถานะเงินโอนต่างประเทศแบบเรียลไทม์ ที่ผู้บริโภค หรือผู้ประกอบธุรกิจ สามารถเช็คสถานการณ์โอนเงินได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ www.scb.co.th โดยหลังจากที่ลูกค้าได้ทำรายการโอนเงินผ่านทางสาขาที่ใช้บริการ หรือ SCB Business Net หรือ SCB Business Anywhere ของธนาคาร ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะเงินโอนต่างประเทศได้ด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงสแกน QR ใส่ข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน (Debit Advice) หรือเอกสาร MT103 ระบบจะแสดงผลสถานะเงินโอนแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ลูกค้าทราบข้อมูลเงินเข้าบัญชีปลายทางและทำธุรกรรมต่อเนื่องได้ทันที
"ธนาคารมั่นใจว่า SCB Cross Border Payment Tracking จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถบริหารธุรกิจและจัดการกระแสเงินสดได้อย่างคล่องตัว ทั้งยังสามารถวางแผนงบประมาณได้อย่างถูกต้องตามเวลาที่กำหนด เพิ่มโอกาสการลงทุน บริหารต้นทุนและเครดิตได้ดีขึ้น ทั้งยังสนับสนุนความสัมพันธ์ให้แก่ธุรกิจไทยในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศกับคู่ค้าได้ในระยะยาว" นายธนวัฒน์ กล่าว
ขั้นตอนการติดตามสถานะเงินโอนต่างประเทศ
ติดตามผ่านเว็บไซต์ www.scb.co.th
หรือ ตรวจสอบผ่าน QR Code
กลุ่มอลิอันซ์ เปิดเผยบทวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกหลังนโยบายทรัมป์ ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เข้มข้นขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวาระที่สอง ประกาศใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้ (reciprocal tariffs) โดยตั้งเป้าเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดถึง 130% ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการค้าระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้นทันที โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ สหรัฐฯ
DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที "THAIFEX - ANUGA ASIA 2025"
—
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย แ...
ไทยผงาดบนเวทีเกมโลก gamescom 2025 พร้อมรุดหน้าจัด "gamescom asia x Thailand Game Show" เปิดฉากมหกรรมเกมสุดยิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯ
—
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล...
'พาณิชย์' ปลื้ม นักธุรกิจจิวเวลรี่ทั่วโลกแห่ร่วมงาน Networking Reception คับคั่ง ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับระดับสากล
—
กรมส่งเสริม...
หอการค้านานาชาติ (ICC) ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั่วโลก
—
หอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานใ...
"พาณิชย์" จัดงาน Thai Night ส่งเสริมภาพยนตร์-บันเทิงไทยสู่สายตาชาวโลก
—
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดงาน Hong Kong Thai Night 2025 งานสร้างเคร...
โชว์พลังดีไซน์ไทยในงาน STYLE Bangkok 2025 รวมแบรนด์ดาวรุ่งจาก Talent Thai และ Designers' Room ที่คุณไม่ควรพลาด
—
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณ...
สสว. จัดงาน "ปลดล็อคความสำเร็จ SME" ปี 2568
—
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะจัดงานเผยแพร่นโยบาย/โครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการส่ง...