ไบเออร์มองเห็นตลาดที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นกว่าสองเท่า และศักยภาพที่จะกำหนดรูปแบบของเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปบนพื้นที่กว่า 400 ล้านเอเคอร์

ไบเออร์ประกาศถึงแผนการดำเนินธุรกิจแผนกครอปซายน์ ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป (regenerative agriculture) ช่วยสนับสนุนการเติบโตในตลาดใกล้เคียง นอกเหนือจากธุรกิจหลักด้านเมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช ผลิตภัณฑ์อารักขาพืช และดิจิทัล โดยในการประชุมสุดยอดนวัตกรรม ถั่วเหลือง566 ของไบเออร์ จัดขึ้นเมื่อวันที่ ถั่วเหลืองดำเนินธุรกิจ มิถุนายน ถั่วเหลือง566 ณ เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บริษัทได้กำหนดกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชผล ผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ เชื้อเพลิงชีวภาพ ฟาร์มคาร์บอน บริการแอปพลิเคชันที่แม่นยำ ตลอดจนแพลตฟอร์มดิจิทัลและตลาดซื้อขายบนออนไลน์ ทั้งหมดนี้จะตอบโจทย์ความต้องการด้านการเกษตร บริษัทคาดการณ์โดยภาพรวมว่าธุรกิจจะมีมูลค่าสูงกว่า สินค้าเกษตร แสนล้านยูโรต่อปีในตลาดใกล้เคียง ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจมีศักยภาพการเติบโตในตลาดเพิ่มขึ้นสองเท่า จากในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงกว่า สินค้าเกษตร แสนล้านยูโรสำหรับแต่ละหน่วยธุรกิจหลัก นอกจากนั้น ภายในช่วงกลางทศวรรษหน้า ไบเออร์มีแผนจะสร้างระบบการเกษตรปฏิรูปบนพื้นที่มากกว่า 4ดำเนินธุรกิจดำเนินธุรกิจ ล้านเอเคอร์ โดยสร้างขึ้นจากผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำของไบเออร์

ไบเออร์มองเห็นตลาดที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นกว่าสองเท่า และศักยภาพที่จะกำหนดรูปแบบของเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปบนพื้นที่กว่า 400 ล้านเอเคอร์

ภายในการประชุมสุดยอดนวัตกรรม 2566 จัดขึ้นที่นิวยอร์ก ได้มีการจัดแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการผสมผสานการวิจัยและพัฒนาด้านเมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช และผลิตภัณฑ์อารักขาพืช โดยเป็นการผนวกผลิตภัณฑ์และบริการแบบระบบองค์รวม ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาวจากการผลักดันแผนการเติบโตเพื่อขับเคลื่อนระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป ไบเออร์มองเห็นตลาดที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นกว่าสองเท่า และศักยภาพที่จะกำหนดรูปแบบของเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปบนพื้นที่กว่า 400 ล้านเอเคอร์

"เรากำลังทำให้เห็นถึงบทบาทของเราที่กว้างขึ้นในภาคการเกษตร ด้วยสุดยอดรูปแบบนวัตกรรมในอุตสาหกรรมและตำแหน่งผู้นำด้านเมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช และผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ไบเออร์จึงมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของเกษตรกรทั้งในด้านความมั่นคงทางอาหารและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง" Rodrigo Santos ประธานแผนกครอปซายน์และสมาชิกคณะกรรมการบริหารของไบเออร์ เอจีกล่าว "สำหรับไบเออร์ ระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปเป็นการเพิ่มผลผลิตทางอาหารและผลประกอบการจากการทำการเกษตร ตลอดจนการบรรเทาปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง พร้อมไปกับการฟื้นฟูธรรมชาติ และเราจะส่งมอบนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่มุ่งเน้นระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปเป็นหลัก นอกจากนั้นเรามองหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ทั้งด้านผลผลิต ผลประกอบการ และความยั่งยืน"

มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป

เกษตรกรทั่วโลกจะเข้าถึงนวัตกรรมชั้นนำที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มผลผลิต แต่ยังจะช่วยฟื้นฟูดินและลดผลกระทบด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นจากการทำการเกษตร โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามลักษณะของพืชได้ สำหรับพื้นที่การเกษตรในอนาคต ข้อมูลที่ได้จากพื้นที่ทำการเกษตรและปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น จะมีความสำคัญต่อเกษตรกร เทียบเท่ากับ ปริมาณผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้ในแต่ละพื้นที่ ในอนาคตข้างหน้า ไบเออร์จะมุ่งเน้นการลงทุนในผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นรากฐานสำคัญสำหรับระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปซึ่งรวมถึงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ความเป็นอยู่ที่ดีทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกรและชุมชน การอนุรักษ์น้ำ การบรรเทาปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สภาพดินที่ดีขึ้น ตลอดจนการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ

ดังนั้นธุรกิจหลักของไบเออร์ ที่มีผลิตภัณฑ์อารักขาพืช เมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช และผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลจะมีตำแหน่งทางการตลาดที่ดีที่สุดในการเติบโตและจะผลักดันการเติบโตที่สำคัญในทุกๆ ปี บริษัทกำลังลงทุนเพื่อเร่งส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการตามความต้องการของเกษตรกร เทคโนโลยีสู่การเปลี่ยนแปลงในระยะท้ายจะถูกรวมเข้าด้วยกันกับการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ทั่วโลก รวมถึงการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์และสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี

การดำเนินธุรกิจสู่แนวหน้าในอุตสาหกรรมจะนำมาซึ่งการปฏิรูปด้านการเกษตร

ในปี 2565 เราได้ดำเนินการ 15 โครงการด้านการเกษตร ได้แก่สารสำคัญในผลิตภัณฑ์อารักขาพืช คุณลักษณะพันธุ์พืช และโมเดลดิจิทัลใหม่ๆ ซึ่งไบเออร์ได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการในธุรกิจเมล็ดพันธุ์จนได้ผลิตภัณฑ์เชิงผสมผสานและเชิงประยุกต์ทางความหลากหลายใหม่ๆ 500 รายการ รวมถึงได้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการในธุรกิจผลิตภัณฑ์อารักขาพืช จนเปิดตัวสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ 10 สูตรและขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 250 รายการ การลงทุนในการวิจัยและพัฒนามูลค่า 2.6 พันล้านยูโรก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการพิเศษในปี 2565 ยังคงดำเนินต่อไปตามแผนดำเนินธุรกิจที่คาดว่าจะมียอดขายโดยประมาณกว่า 3 หมื่นล้านยูโร โดยครึ่งหนึ่งของยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่

"วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนนำมาซึ่งการลงทุนแบบก้าวหน้า เป็นการลงทุนในแพลตฟอร์มนวัตกรรมทั้งหมด 5 ด้านของเรา ได้แก่ การปรับปรุงพันธุ์ เทคโนโลยีชีวภาพ เคมี ชีวภาพ และวิทยาการข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ แต่ละแพลตฟอร์มมีการผสานรวมนวัตกรรมเหล่านี้เพื่อช่วยให้เราสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นระบบเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดของพวกเรา" Dr. Robert Reiter หัวหน้าส่วนงานการวิจัยและพัฒนา แผนกครอปซายน์ของไบเออร์กล่าว "เกษตรกรต้องการพันธุ์พืชที่ดีที่สุดพร้อมด้วยลักษณะสายพันธุ์ที่ดีที่สุด รวมถึงต้องการโปรแกรมเพื่อการเพาะปลูกที่มีการอ้างอิงจากข้อมูล เพื่อให้สามารถวางแผนเรื่องเวลาและสถานที่ในการเพาะปลูกได้ นอกจากนี้ เกษตรกรต้องการผลิตภัณฑ์โมเลกุลเล็กเพื่อปกป้องรักษาพืชที่สร้างผลกระทบน้อยควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์และบริการทางชีวภาพสำหรับระยะปลายของฤดูเพาะปลูก รวมทั้งแอปพลิเคชันที่แม่นยำเพื่อปกป้องพืชผลของพวกเขาได้อย่างยั่งยืน เรามีผลงานเชิงลึกและผลงานที่เราภูมิใจเกี่ยวกับความสำเร็จในการเปลี่ยนรูปแบบนวัตกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จริงและมีมูลค่าสำหรับเกษตรกร"

การดำเนินด้านวิจัยและพัฒนาของไบเออร์ประกอบด้วยเทคโนโลยีที่น่าสนใจใหม่ๆ ดังนี้

  • เทคโนโลยีปรับปรุงลักษณะพันธุ์เพื่อการเปลี่ยนแปลง บริษัทกำลังพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ อาทิ ระบบปลูกข้าวโพดอัจฉริยะ Preceon ที่ช่วยลดความสูงของต้น ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกร รวมถึงลดความเสี่ยงการสูญเสียผลผลิตเนื่องจากลมแรง จากการใช้ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำและออกฤทธิ์ยาวนาน การใช้สารอาหารเสริม และความสามารถในการปรับปรุงต้นทุน ประชากรการเพาะปลูก และการกำหนดพื้นที่เพาะปลูกผ่านเครื่องมือดิจิทัล วิธีการที่เป็นระบบรวมอยู่ในเครื่องมือดิจิทัลเพื่อช่วยในการเพาะปลูกและแสดงการเปลี่ยนแปลงจากการขายปัจจัย (inputs) ในการเพาะปลูกไปสู่การขายผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการแก้ปัญหา มีการพัฒนาข้าวโพดต้นเตี้ยรุ่นแรกสำหรับการวางจำหน่ายผ่านการปรับปรุงพันธุ์และคาดว่าในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษนี้จะมีการสร้างเทคโนโลยีโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพสำหรับพืช รวมถึงจะเพิ่มพันธุ์ลูกผสมและขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา ได้ทำการพิจารณาเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพของลักษณะพันธุ์ข้าวโพดต้นเตี้ยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนในกระบวนการเพื่ออนุมัติในอนาคตต่อไป ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีปรับปรุงโปรตีน เทคโนโลยีทางพันธุกรรมชนิด RNAi และเทคโนโลยีชีวภาพ ไบเออร์สามารถสร้างเทคโนโลยีใหม่เพื่อคุณลักษณะพันธุ์พืช เช่น ข้าวโพดต้นเตี้ยในรุ่นปัจจุบัน ลักษณะพันธุ์ที่สามารถควบคุมแมลงในรุ่นถัดไป ลักษณะพันธุ์ที่ควบคุมหนอนทำลายรากข้าวโพดในรุ่นที่สาม เพื่อช่วยเกษตรในการควบคุมแมลงและวัชพืชสำหรับผลิตภัณฑ์ข้าวโพดพันธุ์ต้นเตี้ยนี้ สารจำกัดแมลงและวัชพืชในถั่วเหลืองสายพันธุ์ต่างๆ ของไบเออร์ที่มีกลไกการออกฤทธิ์ได้หลากหลายสำหรับประเทศบราซิล ซึ่งจำเป็นต่อการจัดการแมลงและศัตรูรบกวนที่เปลี่ยนไป รวมถึงความท้าทายของวัชพืชที่ดื้อต่อสารกำจัดวัชพืชที่พบบ่อยในสภาพแวดล้อมเขตร้อน
  • โมเลกุลขนาดเล็กเพื่อความยั่งยืน มีการคาดการณ์ว่าแนวทางใหม่ในผลิตภัณฑ์อารักขาพืชจะเป็นตัวกำหนดอุตสาหกรรมในอนาคต รวมถึงการพัฒนากลไกการออกฤทธิ์ใหม่ทั้งหมดสำหรับสารกำจัดวัชพืชในการควบคุมวัชพืชในพื้นที่กว้าง ซึ่งเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา ผลการศึกษาวิจัยโมเลกุลนี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการควบคุมวัชพืชที่ดื้อต่อยา และคาดว่าจะสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ในระยะท้ายของทศวรรษนี้ ตัวอย่างเพิ่มเติมจากการศึกษาวิจัยระยะที่ 3 เช่น สารกำจัดเชื้อราออกฤทธิ์กว้างตัวใหม่สำหรับธัญพืช ข้าวโพด ผลไม้ และผักที่อาจได้รับความนิยม รวมถึงสารกำจัดเชื้อราในพืชสวนออกฤทธิ์กว้างตัวใหม่จากการศึกษาวิจัยระยะที่ 2 ที่มีโอกาสที่จะขยายไปยังธัญพืชและน้ำมันเมล็ดผลองุ่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยไบเออร์ในการออกแบบการอารักขาพืชรุ่นถัดไปที่สร้างความยั่งยืนและลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ผลิตภัณฑ์ใหม่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับปรุงและมีขอบเขตการใช้งานในลักษณะที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น การใช้เทคโนโลยี PROTAC ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากความร่วมมือกับ Oerth Bio โดยออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับโปรตีนเป้าหมายเพียงชนิดเดียวและสิ่งมีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อการอารักขาพืชเท่านั้น นอกจากนี้ ไบเออร์กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันของสารเคมีที่มีอยู่ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI

รูปแบบนวัตกรรมต่างๆ ของไบเออร์จะขับเคลื่อนวิวัฒนาการทางการเกษตรโดยการจัดหาเครื่องมือ เทคโนโลยี และทางเลือกต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปในอนาคตให้กับเกษตรกร ผลิตภัณฑ์เพื่อสายพันธุ์ของเมล็ดพันธุ์ที่มีความแม่นยำจะช่วยเร่งให้ได้มาซึ่งสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตตามลักษณะทางพันธุกรรมที่สำคัญ และจะเป็นการอารักขาพืชด้วยลักษณะพันธุ์ที่เปลี่ยนรูปแบบการจัดการ ซึ่งช่วยให้การทำฟาร์มแบบไม่ไถพรวนสามารถปรับปรุงสภาพดินได้ ไบเออร์จะสร้างอนาคตแห่งระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป โดยการผสมผสานระหว่างโมเลกุลขนาดเล็กเชิงนวัตกรรมกับผลิตภัณฑ์และบริการทางชีวภาพที่ช่วยปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและลดปัญหาสารตกค้าง รวมถึงการตรวจสอบการปรับปรุงดินผ่านเครื่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยี

ไบเออร์กับการขยายไปสู่ตลาดเกษตรกรรมใกล้เคียงที่เข้าถึงได้แห่งใหม่

นอกเหนือจากธุรกิจหลักเหล่านี้แล้ว ไบเออร์ยังมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจไปยังโอกาสทางการตลาดใหม่ ดังนี้

  • ความอุดมสมบูรณ์ของพืชผลและความก้าวหน้าทางชีวภาพ เทคโนโลยีตรึงไนโตรเจนเชิงชีวภาพ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตได้ดียิ่งขึ้น จากการลดการปล่อยไนโตรเจนและลดต้นทุนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดและข้าวสาลี ความหลากหลายทางชีวภาพที่เป็นไปได้และประโยชน์ของดินที่ดีจากการลดการใช้ไนโตรเจนสังเคราะห์ที่สำคัญ นอกจากนี้เทคโนโลยีในระยะแรกของบริษัทก็ให้ผลที่ดี ในระยะปลายของแอปพลิเคชันเพื่อการอารักขาพืชที่อิงตามชีวภาพสำหรับป้องกันแมลงและควบคุมโรค บริษัทยังเล็งเห็นโอกาสจากการลดสารตกค้างในการปลูกผักและผลไม้ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ในฐานะผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ด้านชีวภาพอย่าง Serenade และการเป็นพันธมิตรนวัตกรรมแบบเปิดกับ Gingko, Kimitec, M2i และ AlphaBio ทำให้ไบเออร์มีตำแหน่งทางการตลาดที่สำคัญในอุตสาหกรรมนี้ มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 พันล้านยูโรภายในปี 2578
  • เชื้อเพลิงชีวภาพ พืชคลุมดินช่วยปกป้องพื้นที่การเกษตรให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืนที่ช่วยส่งเสริมสภาพดินที่ดี สำหรับ CoverCress ที่ไบเออร์เป็นผู้ถือหุ้นหลักจะเริ่มจำหน่ายพืชคลุมดินที่มีชื่อเดียวกันให้กับผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ น้ำมันที่สกัดจาก CoverCress ได้รับการออกแบบมาเพื่อบรรลุเป้าค่าความเข้มข้นคาร์บอนที่ลดลง และสามารถนำมาสร้างเป็นเชื้อเพลิงทดแทนโดยไม่รบกวนพืชอาหาร เนื่องจากเป็นการเพาะปลูกในระหว่างฤดูกาล ด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้น จึงมีโอกาสทางการตลาดที่สำคัญสำหรับการเพาะปลูกที่ยั่งยืนนี้
  • ห่วงโซ่คุณค่าดิจิทัล (Digital Value Chain) ความก้าวหน้าด้านเกษตรกรรมที่แม่นยำและเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรดิจิทัลจะช่วยเพิ่มผลผลิตและความยั่งยืนในพื้นที่เพาะปลูกและแนวทางการทำการเกษตรให้กับเกษตรกร Climate FieldView กลายเป็นเครื่องมือตัดสินใจที่สำคัญ โดยมียอดสมาชิกใช้งานบนพื้นที่การเกษตรมากกว่า 220 ล้านแห่งทั่วโลก นอกจากจะให้ข้อมูลเชิงลึกทางเกษตรกรรมแบบเรียลไทม์แก่เกษตรกรแล้ว ยังเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถปรับโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อาทิ ระบบปลูกข้าวโพดอัจฉริยะ Preceon เป็นการรวมข้าวโพดลูกผสมพันธุ์ต้นเตี้ยใหม่ของไบเออร์เข้ากับคำแนะนำดิจิทัลที่ปรับให้เหมาะกับพื้นที่เพาะปลูกและเป้าหมายการปฏิบัติงานของลูกค้า นอกเหนือจากการเพาะปลูกแล้ว FieldView ยังเป็นโซลูชั่นสร้างห่วงโซ่คุณค่า โดยทำหน้าที่เป็นระบบบันทึกข้อมูลสำหรับแนวทางการทำการเกษตรที่ชาญฉลาดสำหรับปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงของลูกค้า และสนับสนุนการดำเนินโครงการคาร์บอนทั่วโลกของไบเออร์ รวมถึงแพลตฟอร์ม ForGround ของไบเออร์ในสหรัฐอเมริกา โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับองค์กรบนระบบคลาวด์ใหม่ Bayer AgPowered Services ที่ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มใหม่อย่าง Microsoft Azure Data Manager for Agriculture นำเสนอชุดความสามารถทางดิจิทัลขั้นสูงและโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลเพื่อเร่งนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร ด้วยระบบคลาวด์ใหม่ทำให้นักคิดค้นนวัตกรรมและบริษัทต่างๆ ในธุรกิจฟาร์มและห่วงโซ่คุณค่าอาหาร สามารถเร่งสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น มีความโปร่งใสกับผู้บริโภคมากขึ้น และมอบโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับเกษตรกร
  • ฟาร์มคาร์บอน ไบเออร์เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการแก้ปัญหารวมทั้งแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเกษตรกรในการขจัดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การเพาะปลูกแบบไม่ไถพรวนในพืชที่มีลักษณะพันธุ์ทนต่อสารกำจัดวัชพืชและการใช้พืชคลุมดินสามารถช่วยปรับปรุงสภาพดิน ลดการพังทลายของดินและลดการปล่อยคาร์บอนได้ โครงการริเริ่มด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไบเออร์ (Bayer Carbon Initiative) นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ใหม่ที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมให้กับเกษตรกร โดยเชื่อมโยงเกษตรกรกับตลาดคาร์บอนทั่วโลก

Rodrigo Santos กล่าวเสริมว่า "ไบเออร์อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะผลักดันการเป็นผู้นำในระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เป้าหมายของเราคือการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยั่งยืนขึ้น และมีผลกระทบเชิงบวกสุทธิต่อสิ่งแวดล้อม"


ข่าวดำเนินธุรกิจ+สินค้าเกษตรวันนี้

กูร์กูร์ ชิคเก้นท์ เติบโตสู่ปีที่ 5 ในประเทศไทย ตั้งเป้าปั้นแบรนด์สู่ใจลูกค้า ภายใต้แนวคิด "The only one in your mind"

เจ คอนเซ็พท์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน กูร์กูร์ ชิคเก้นท์ [GUGU Chicken] ไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง เติบโตอย่างรวดเร็ว ก้าวสู่ปีที่ 5 ในประเทศไทย ประกาศตอกย้ำพันธกิจ "The Only One in Your Mind" ยึดแนวคิดใส่ใจลูกค้าและสร้างความประทับใจ เดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า มั่นใจจุดแข็ง ระบบบริหารตรงจากส่วนกลางในรูปแบบ Direct Management มั่นใจ สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าขยายครบ 40 สาขาทั่วประเทศไทย ภายในปี 2568 นายจองซอก ซู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ คอนเซ็พท์ จำกัด เปิด

บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่... กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market — บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...

CHANINTR (ชนินทร์) ผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์ล... Chanintr Pre-Owned ธุรกิจบริการเฟอร์นิเจอร์ลักชัวรีมือสองแห่งแรกในไทย — CHANINTR (ชนินทร์) ผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์ลักชัวรีของประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นในแนวทาง...

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย (กลาง) รองผู้จัดการใ... กสิกรไทย รับรางวัลโครงการด้านการเงินสีเขียวยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก The Asian Banker — นายณัฐพล ลือพร้อมชัย (กลาง) รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิ...

บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้นำการดำ... NER ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 (จัดประชุมในรูปแบบ Hybrid (Physical และe-AGM)) — บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้นำการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ย...

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด ... SPRC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น — บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จัดการประ...