SABINA ยังรักษาสถิติทำรายได้สูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง หลังเปิดเผยผลประกอบการปี ชุดชั้นใน567 ที่มีรายได้รวม 3,586.9 เพิ่มขึ้นจากปี ชุดชั้นใน566 คิดเป็น 4% โดยมีกำไรสุทธิ 464.4 ล้านบาท เผยปีที่ผ่านมาชุดชั้นในในกลุ่ม "บราเลส" (BRALESS) ยังยืนหนึ่งในกลุ่มสินค้าขายดี ขณะที่กลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายให้สินค้า "เป็นมากกว่าชุดชั้นใน" ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยม โดยเฉพาะการเดินหน้าคอลแลบกับแบรนด์ต่างๆ ตลอดทั้งปี ที่สร้างทั้งสีสันให้กับตลาด และสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ด้านบอร์ดบริษัทฯ มีมติอนุมัติเงินปันผล มีกำไรสุทธิผลประกอบการผลประกอบการ% ของกำไรสุทธิในอัตราหุ้นละ ผลประกอบการ.65 บาท กำหนดจ่ายวันที่ ชุดชั้นในผลประกอบการ พ.ค.ชุดชั้นใน568 รวมจ่ายปันผลทั้งปีในอัตราหุ้นละ มีกำไรสุทธิ.34 บาท
นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "ซาบีน่า" เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 1 ปี (มกราคมถึงธันวาคม) ประจำปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,586.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 4% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยังคงเป็นการเติบโตต่อเนื่อง และเป็นรายได้ที่สูงสุดเป็นสถิติใหม่อีกครั้งจากที่เคยทำไว้ในปี 2566 ที่ระดับ 3,450.4 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 464.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.4% จากปี 2566 โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปี 2567 อยู่ที่ 12.9%
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงวด 1 ปี ประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 1.34 บาท คิดเป็น 100% ของกำไรสุทธิ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.69 บาท คงเหลือการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.65บาท กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568
"ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ท้าทายความสามารถในการรักษาการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับ 2.5% ที่ส่งผลกับความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การทำตลาดของ SABINA ในปี 2567 ที่เราพยายามผลักดันให้ SABINA เป็นมากกว่าชุดชั้นใน กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารักษาการเติบโตของรายได้ไว้ได้ท่ามกลางความไม่แน่นอน เนื่องจากสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า สร้างการซื้อใหม่ในกลุ่มสินค้าใหม่ ไปพร้อมๆ กับการซื้อซ้ำสินค้าชุดชั้นในโดยเฉพาะชุดชั้นในกลุ่ม "บราเลส" (BRALESS) ที่ยังเป็นสินค้าขายดีอันดับต้นๆ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว
ทั้งนี้ SABINA เริ่มต้นปี 2567 ด้วยการคอลแลบกับแบรนด์เสื้อผ้าไฮเอนด์สัญชาติไทย "เจนสุดา" (Janesuda) ส่งคอลเลคชั่นพิเศษ Janesuda x SABINA สู่ตลาด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ SABINA ร่วมมือกับแบรนด์ไทยในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทั้งชุดชั้นในและเสื้อผ้า หลังจากนั้น SABINA ยังสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวสินค้าในคอลเลคชั่น "From Marine to Fashion จากท้องทะเล… สู่แฟชั่นรักษ์โลก" ประกอบด้วย เสื้อชั้นใน กางเกงชั้นใน เสื้อ กางเกงขาสั้น และเสื้อกล้ามเสริมบรา ซึ่งเป็นการผลิตจากอวนที่ไม่ใช้แล้วที่ถูกทิ้งเป็นขยะจำนวนมหาศาล ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืน
ในช่วงครึ่งปีหลัง SABINA สร้างปรากฏการณ์ที่สั่นสะเทือนวงการอีกครั้งกับชุดชั้นในคอลเลคชั่นใหม่ "ซาบีน่า ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง" (SABINA FOREVER YOUNG) ที่คว้าเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง "แอน ทองประสม" มารับหน้าที่พรีเซนเตอร์ ตอบโจทย์การขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่วัย 45 อัพ ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่มีจำนวนผู้บริโภควัยผู้ใหญ่มากขึ้น หลังจากนั้น SABINA คอลแลบกับกางเกงยีนส์ยอดนิยม "MERGE" เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ "ลา-เซ-นิ-เม" (Lacenime) ที่ดึงความโดดเด่นจากดีเอ็นเอของทั้งสองแบรนด์ไทย มาสร้างสรรค์เป็นเสื้อผ้าทั้งชุดชั้นในและเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ภายนอก
"ปี 2567 ที่ผ่านมา ช่องทางขายที่เติบโตอย่างโดดเด่นยังคงเป็นช่องทางไม่มีหน้าร้าน (Non Store Retailing : NSR) ที่เติบโต 17.8% ขณะที่ช่องทางค้าปลีก (Retail) เติบโต 0.5% และช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) เติบโตลดลง 21.6% อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 SABINA ตั้งเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ไว้ทุกช่องทางขาย โดยเราจะมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มพอร์ตสินค้าผ่านทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการบริโภคและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์" นางสาวดวงดาวกล่าว
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-AGM) รายงานผลการดำเนินงานและผลประกอบการปี 2567 การพิจารณาจ่ายเงินปันผล รวมถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท SPRC รายงานผลประกอบการปี 2567 มีกำไรสุทธิ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอัตรากำไรของกิจการอยู่ที่ 6.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล การเติบโตในปี 2567 เป็นผลมาจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น อัตราการนำน้ำมันดิบ
ดั๊บเบิ้ล เอ เผยผลประกอบการปี 2567 สุดแข็งแกร่ง! รายได้โตต่อเนื่อง กำไรเพิ่มขึ้น 22.6% เดินหน้าสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ
—
บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกั...
อมตะ วีเอ็น แจงปี 67 กวาดรายได้ 5 พันลบ. ตั้งหมุดหมายขายที่ดินปี 68 โต 40%
—
"อมตะ วีเอ็น" เผยผลประกอบการ ปี 2567 เติบโตจากการขายที่ดินเพิ่ม 40% กวาดรายได...
ITEL เผยผลประกอบการปี 67 สุดแกร่ง ในงาน Opp Day กางโรดแมพปี 68 รุกตลาด Cloud Implementor เต็มตัว
—
ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิน...
EGCO Group คืนฟอร์มแกร่ง พลิกกำไรสุทธิปี 67 เพิ่มกว่า 13,000 ลบ. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เสนอจ่ายปันผลครึ่งปีหลัง 3.25 บาท/หุ้น รวมทั้งปี 6.50 บาท/หุ้น
—
บริษัท ผลิต...
MEDEZE มาตามนัด โชว์กำไรปี 67 ที่ 339 ลบ. พุ่ง 41% ปักธงฟิลิปปินส์ จัดตั้ง Cell Banking Biotechnology
—
"เมดีซ กรุ๊ป" โชว์กำไรสุทธิปี 67 ที่ 338.74 ลบ. พุ...
บี.กริม เพาเวอร์ งบปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง เร่งเครื่องต่างประเทศ ขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนรวม 1,345 เมกะวัตต์ พร้อมประกาศปรับเพิ่มนโยบายการจ่ายเงินปันผล
—
ดร. ฮาราลด์...
บางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลประกอบการปี 67 มีกำไรสุทธิ 3.8 พันล้านบาท ผู้โดยสาร 4.3 ล้านคน
—
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบิน บางกอกแอร์เ...