วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ได้รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ 9 - 22 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมพร้อมกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้เห็นชอบต่อกรอบท่าทีเจรจาของไทยในการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประจำปี พ.ศ. 2567-2568 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของกรอบอนุสัญญาฯ และความตกลงปารีส ตลอดจนนโยบายและแผนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ
"สำหรับประเด็นสำคัญที่ประเทศไทยเตรียมไปเสนอในการประชุม COP29 ได้มุ่งเน้นการเสนอผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ ทั้งประเด็นการลดก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้ข้อตกลงและข้อตัดสินใจภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีประเด็นที่สำคัญ 5 ประเด็น ประกอบด้วย (1) การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เพื่อการบรรลุ NDC 2030 ซึ่งคาดว่าสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 43% จากเป้าหมาย 30 - 40% คิดเป็น 222 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (2) การขับเคลื่อนแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการประเด็นการปรับตัวฯ เข้าสู่แผนและยุทธศาสตร์ในรายสาขาและในพื้นที่ รวมถึงการจัดทำข้อมูลด้านภูมิอากาศและข้อมูลความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับประเทศ (3) การเร่งผลักดัน พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ตัวอย่างการสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้เป็นรูปธรรม จากการประชุมภาคีขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 3 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2024) และ (5) การจัดส่งรายงานความโปร่งใสรายสองปี ซึ่งประเทศไทยกำหนดให้สามารถจัดส่งได้ภายในเดือนธันวาคม 2567 ตามกำหนดเวลา" ดร.เฉลิมชัย กล่าว
ดร.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ประเด็นเจรจาที่สำคัญในการประชุม COP29 ครั้งนี้ จะประกอบด้วย (1) การจัดทำเป้าหมายทางการเงินใหม่ (New Collective Quantified Goal on Climate Finance: NCQG) ซึ่งภาคีประเทศกำลังพัฒนาคาดหวังกับการสนับสนุนทางการเงินทั้งในรูปแบบเงินให้เปล่า (Grant) และเงินกู้แบบผ่อนปรน (Highly concessional loan) ที่มีความชัดเจน (2) การจัดทำ NDC 3.0 ซึ่งเป็นเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของปี ค.ศ. 2035 ที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ตามความตกลงปารีส และผลการทบทวนสถานการณ์และการดำเนินงานระดับโลก ครั้งที่ 1 (The First Global Stocktake) (3) การเข้าถึงกองทุนเพื่อความสูญเสียและความเสียหาย (Loss and damage fund) ที่มีความชัดเจนในด้านข้อกำหนด กฎเกณฑ์ และแนวทางการขอรับการสนับสนุน ให้กับประเทศที่มีความเปราะบางต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ความชัดเจนของตัวชี้วัด (Indicators) ตามเป้าหมายการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลก และตัวชี้วัดในระดับพื้นที่ ตามบริบทของประเทศภาคี และ (5) ความร่วมมือภายใต้กลไกข้อ 6 ของความตกลงปารีส ที่จะต้องมีแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน และไม่ก่อให้เกิดภาระเพิ่มเติมเกินจำเป็น
ทั้งนี้ การประชุม COP 29 และการประชุมคู่ขนานที่เกี่ยวข้อง จะมีสาระสำคัญในการหารือในบริบทที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ประกอบด้วย (1) การประชุมระดับผู้นำ (World Leaders Climate Action Summit) ระหว่างวันที่ 12 - 13 พฤศจิกายน 2567 (2) การประชุมระดับสูง (Resumed high-level segment) ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมฯ ระหว่างวันที่ 19 - 20 พฤศจิกายน 2567 และ (3) การประชุมระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีการเจรจาตามกรอบของกลุ่มประเทศ 77 และจีน (G77 and China) ระหว่างวันที่ 9 - 10 พฤศจิกายน 2567 ภายใต้กรอบการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ รัฐภาคีพิธีสารเกียวโต รัฐภาคีความตกลงปารีส รวมถึงองค์กรย่อยภายใต้กรอบการประชุมดังกล่าว ระหว่างวันที่ 11 - 22 พฤศจิกายน 2567 โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวการประชุม COP29 ได้ทาง Facebook กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
นายประสิทธิ์ เกิดโต รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (รษก.ผอ.อ.อ.ป.) เป็นผู้แทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) ในฐานะประธานอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับ "องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป." หน่วยงานในสังกัด ทส. ที่มี "ผลการประเมินคุณธรรม ประจำปี 2567" ระดับ "องค์กรพัฒนาคุณธรรม" ตามโครงการส่งเสริมชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรม โดยมี นายถนอมศักดิ์ เฉียบแหลม รองผู้อำนวยการ
กลุ่มสยามกลการ รับประกาศนียบัตร 'Climate Action Leaders Recognition' บนเวที UN ประเทศไทย ตอกย้ำดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนระดับสากล
—
เมื่อเร็วๆ นี้ ...
DMT สุดปลื้ม คว้าเกียรติบัตรสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อมครบทุกพื้นที่สำนักงานด่าน
—
นางอโนมา อุฤทธิ์ รองก...
UMI ได้รับใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) จาก โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก
—
บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหา...
"SAPPE" รับประกาศนียบัตร 'Climate Action Leaders' เวทีผู้นำด้านความยั่งยืน ยึดมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน พร้อมสนับสนุน Diversity & Equality
—
นางสาวปิยจิ...
บางจากฯ คว้ารางวัลระดับสากล "Climate Action Leader" บริษัทพลังงานหนึ่งเดียวของไทย สะท้อนบทบาทผู้นำสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
—
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 นางกลอยต...
เจียไต๋คว้ารางวัลสำนักงานสีเขียวระดับดีเยี่ยม มุ่งเป้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน
—
บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย โดยนายเกียรติศ...
'มิชลิน' รับประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ของผลิตภัณฑ์ 11 รายการ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการสัญจรอย่างยั่งยืน
—
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษั...
MSM รับตราสัญลักษณ์ G-Green
—
ประภัสรา นิมมานเทวินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมืองทอง เซอร์วิสเซส แอนด์ แมเน็จเม้นท์ จำกัด หรือ MSM เครือบางกอกแลนด์ ...